ขวดหมักเกรนคีเฟอร์ระบบair lock ป้องกันฝุ่น แมลงบิน เชื้อโรค
ขวดหมักเกรนคีเฟอร์ระบบair lock ป้องกันฝุ่น แมลงบิน เชื้อโรค
❤️ปริมาตรขวดที่แจ้งในภาพเป็นค่าประมาณนะคะ
เทียบ 1 oz=30มิลลิลิตร แต่จริงๆแล้ว ทางวิทยาศาสตร์1oz=28.4มิลลิลิตร
❤️ขวดนี้เป็นภาชนะแก้วทนความร้อน สามารถนึ่งด้วยหม้อนึ่งความดัน autoclave หรือหม้อนึ่งแรงดันไอน้ำที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคในวงการแพทย์และด้านอาหารได้ ทนความร้อนได้300องศา
❤️ฝาปิดทำจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับอาหารค่ะ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6.5ซม. เป็นพลาสติก PP ทนความร้อน กรดด่าง และสารเคมี เกลียวล็อก มีรูกรอง PTFE ตรงกลาง ขนาด0.2 ไมครอน เชื้อโรค และฝุ่นpm2.5 ยังเข้าออกยากค่ะ🥰 กันมดแมลงบินได้ค่ะ สามารถปล่อยระบายแก๊สได้และยอมให้ออกซิเจนผ่านได้ไม่มาก ทำจากพลาสติกทนความร้อนได้300องศา และสามารถนึ่งautoclave ได้เช่นกัน สามารถใช้ซ้ำได้ 12-20 ครั้ง หรือ มากกว่า ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการล้างทำความสะอาดถ้าเราไม่ได้ไปต้มบ่อยจนเปื่อย ใช้ได้ยาวค่ะ ถ้าฝาชำรุดมีซื้อใหม่ได้
❤️แต่adminไม่ได้ต้มนะคะ ล้างน้ำประปามีคลอรีนช่วยฆ่าเชื้อโรคในระดับนึงอยู่แล้ว ดังนั้นฝาใช้ได้นานแน่นอนค่ะ ที่อธิบายละเอียดเพื่อให้ทราบว่าวัสดุคุณภาพนะคะ
❤️มาอ่านเหตุผลกันทำไมแนะนำให้ใช้ขวดหมักแบบนี้ คีเฟอร์นมแบบโฮมเมดสามารถหมักแบบปิดฝา หรือเปิดฝาดี กันแน่หรือจะใช้คำว่าต้องการอากาศหรือไม่ต้องการอากาศดี
❤️การใช้อากาศ หมายถึงการหมักโดยมีออกซิเจน ซึ่งมักจะทำด้วยผ้าคลุม การไม่ใช้อากาศหมายถึงที่ไม่มีออกซิเจนหรือใช้น้อยมากซึ่งใช้วิธีปิดฝาหลวมหรือล็อกฝาสนิท
❤️ตามปกติแล้วการหมักคีเฟอร์โดยทั่วไป จะหมักแบบใช้ออกซิเจน คลุมผ้าแบบเปิดฝา แต่ในระยะหลังการหมักคีเฟอร์แบบใช้ออกซิเจนน้อยกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น
❤️ทั้ง2วิธี มีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวเอง แต่พบว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนของแบคทีเรีย ยีสต์และความเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อน
❤️แบคทีเรีย
kefir นมประกอบด้วยแบคทีเรียกรดแลคติกส่วนใหญ่ซึ่งไม่ต้องการออกซิเจนเลย ความเปรี้ยวในการหมักนมคีเฟอร์มาจากกรดแลคติคที่เพิ่มมากขึ้น
❤️อย่างไรก็ตามมีแบคทีเรียหลายสายพันธุ์ในเกรนที่เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ต้องการออกซิเจนบ้างแต่น้อย lactobacillus kefiranofaciens เป็นหนึ่งในนั้น
❤️ lactobacillus kefiranofaciens สร้างสารที่เรียกว่าคีเฟอรัน คือสิ่งที่เราเห็นเป็นเมือกเหนียวเหนอะหนะในเกรน มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
❤️ lactobacillus kefiranofaciens ชอบออกซิเจนน้อย พบว่าจะสร้างสารคีเฟอรันได้ดีกว่า การหมักแบบปิดสนิทหรือเปิดกว้าง มีการศึกษาพบว่า การสร้างสารคีเฟอรันเพิ่มมากขึ้นจาก 33 มก. เป็น44 มก.
❤️คีเฟอรันนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการต่อต้านโรคภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต่อต้านโรคหอบหืดและป้องกันอาการลำไส้ใหญ่อักเสบ
❤️อย่างไรก็ตามแลคโตบาซิลลัสสปีชีส์ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับการขาดออกซิเจนเลย
❤️ยีสต์
ยีสต์ต้องการออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่และทำงานได้ดีที่สุดเมื่อหมักแบบเปิดฝา สิ่งหนึ่งที่การหมักแบบโฮมเมดสังเกตเห็นได้มากที่สุดคือเมื่อเปลี่ยนจากฝาที่เปิดเป็นฝาปิดหรือมีช่องอากาศเพียงเล็กน้อย จะรสเปรี้ยวนำ ความซ่าน้อยมากเนื่องจากแบคทีเรียเพิ่มขึ้นและมียีสต์น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด มันคือคีเฟอร์ที่แท้จริงคือมีแบคทีเรียมากกว่ายีสต์
❤️ยีสต์ S. cerevisiae ถูกนำมาศึกษามากที่สุดและพบว่ามันจะแบ่งตัวมากมายเวลามีออกซิเจน
ปริมาณของยีสต์ในนม kefir ขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล คนส่วนใหญ่ชอบยีสต์น้อยกว่าแบคทีเรีย และมีคนมากมายที่แพ้ยีสต์ ดังนั้นหากไม่ชอบยีสต์ลองหมักแบบปิดฝาให้มีออกซิเจนเข้าน้อยๆ
❤️การปนเปื้อน
หนึ่งในประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของการหมักแบบไม่ใช้ออกซิเจนคือช่วยป้องกันเชื้อโรคในอากาศหรือการปนเปื้อนของเชื้อรา นม kefir นั้นมีความต้านทานสูงและป้องกันเชื้อราก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนเข้ามามาก จะมีความเสี่ยงในการป้องกันค่อนข้างต่ำ
❤️ ถ้ามีอากาศมาสัมผัสโหลหมักมากการปนเปื้อนของยีสต์จะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น มียีสต์มากมายที่ลอยไปมาและโดยทั่วไปก็ไม่ใช่ปัญหา บางครั้งเกรนยังเก็บยีสต์ที่ลอยไปมานั่นมาใช้ในการหมัก ด้วย
❤️ปัญหาคือการเก็บยีสต์ปนเปื้อนมาในปริมาณมาก เราจะสังเกตเห็นว่าหน้านมเกิดสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าkahm yeast เกิดจากพื้นผิวหน้านมสัมผัสออกซิเจนมากนั้นเอง จะเห็นเป็นปุยๆขาวๆได้หรือเปลี่ยนสี เป็นฝ้าหนา
❤️เราสามารถลดโอกาสในการเกิดเชื้อราที่เพิ่มมากขึ้นบนพื้นผิวเนื่องจากการสัมผัสกับออกซิเจนให้น้อยลง ป้องกันการเกิด Kahm yeast ด้วยการหมักแบบปิดที่ให้ออกซิเจนเข้าน้อยที่สุด
❤️แบคทีเรียในนม kefir นั้นมีความแกร่งมาก ทนต่อสิ่งแปลกปลอมได้มากก็จริง แต่ถ้ายีสต์มีเยอะเกินมันอาจจะได้รับผลกระทบ
❤️ฝาปิดที่ปิดแน่นเกินไปจะสร้างสภาพแวดล้อมแบบไม่ใช้ออกซิเจนและเสี่ยงต่อการระเบิด ได้ด้วย
❤️การใช้ฝาโลหะมาปิดจะทำให้เกิดปฏิกิริยากัลวานิกคือการถ่ายทอดประจุระหว่างนมหมักกับฝาได้ค่ะเราจะได้รับโลหะนั้นมาด้วย
❤️โดยทั่วไปแล้วยีสต์สามารถสลายสารอาหารได้ทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนและไม่มีออกซิเจน แต่ในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนยีสต์จะเจริญเติบโตได้ดีกว่า เพราะจะนำออกซิเจนไปสลายสารอาหารให้ได้พลังงานมากกว่า
❤️สรุปว่าคีเฟอร์นมสามารถหมักแบบมีออกซิเจน / ฝาเปิดหรือแบบไม่ใช้ออกซิเจน / ฝาปิดก็ได้ ทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อเสียคือ
❤️หมักฝาเปิดออกซิเจนผ่านมาก เหมาะกับคนที่ชอบรสชาติซ่าของยีสต์
* แบคทีเรียสายพันธุ์ที่รักออกซิเจนเช่นเห็ด เฟิร์นเจริญเติบโต แต่ในคีเฟอร์มีสายพันธุ์ผลิดกรดแล็กติกชอบออกซิเจนน้อยหรือไม่ใช้เลย
* แบคทีเรียชอบออกซิเจนต่ำเช่นkefiranofaciens จะเจริญเติบโตช้า คีเฟอรันน้อย
* ยีสต์เพิ่มมากขึ้น
* ความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการปนเปื้อน
❤️แบบปิดฝายอมให้ออกซิเจนผ่านน้อย เช่นฝาปิดเกลียวหลวม/ฝามีช่องระบายอากาศแบบairlock เหมาะกับคนที่ไวต่อยีสต์
* kefiranofaciens เจริญเติบโตการผลิตkefiranมากขึ้น
* ลดปริมาณยีสต์
* ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน
* ❤️แบบฝาปิดสนิทเลย
* kefiranofaciens จะไม่เจริญเติบโตหรือช้ามาก คีเฟอรั